top of page

เลบานอน
อยู่ในพื้นที่ตะวันออกกลาง ใครที่ชอบเรื่องราวการข้ามพรมแดน อาณานิคมที่เปลี่ยนผ่านหลายเชื้อชาติ ต้องอยากทำความรู้จักที่นี่ เพราะมีทั้งเรื่องราวของอารยธรรมเฮเลนิสติก เปอร์เซีย โรมัน อาหรับ และออตโตมัน บนดินแดนที่ติดชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน เป็นทั้งท่าเรือแห่งแรกของโลกและส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม มีอะไรน่าทำความรู้จักเยอะเลย

Tyre (ไทร์) อยู่ทางตอนใต้ของเลบานอน เป็นเมืองท่าสำคัญของชาวฟินิเชียน เคยถูกกรีกบุกเข้ายึดครอง ก่อนที่ต่อมาจะได้รับเอกราชและกลายเป็นจังหวัดหนึ่งของโรมัน จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีเสน่ห์ของเมืองโบราณ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โรมันฮิปโปโดรม (Roman Hippodome) ที่ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลก!

25370413-10-2022-14-28-50-id-2508--tour.jpg

ไซดอน (Sidon) เมืองท่าอีกแห่งที่สำคัญเป็นอันดับ 3 รองจากบิบลอสและไทร์ เป็นเมืองสุดท้ายบนเส้นทางสายไหมก่อนที่จะลงทะเลไปยังกรุงโรม ที่นี่เลยมีที่พักของกองคาราวานข่านเอลฟราน (Khan al-Franj) ที่จัดเป็นตัวอย่างที่ดีของที่พักกลางทะเลทราย ความยาวกว่า 5,000 ไมล์ ที่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมไซดอน

Caravanserai-in-the-historic-center-of-Sidon.jpg

ปราสาททะเล (Sidon Sea Castle) ให้ได้! ปราสาทตั้งบนเกาะเล็ก ๆ ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยการทำสะพานหิน จุดประสงค์ป้อมปราการแห่งนี้ก็เพื่อป้องกันเมือง สวยงามเลอค่า

Sidon-Sea-Castle.jpg

Beited-Dine (ไบเทดดีน) เป็นเมืองเล็ก ๆ ของเลบานอนห่างจากเมืองเบรุตไม่มาก สิ่งที่คนนิยมมาเมืองนี้เพราะต้องการชมตัวอย่างสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ของเลบานอนนั่นคือ พระราชวังไบเทคดีน (Beited-Dine Palace) ซึ่งสร้างขึ้นโดยเจ้าชายอาหรับ เป็นที่ประทับของเจ้าชายอาหรับ ต่อมาถูกเปลี่ยนมือโดยชาวเติร์กใช้เป็นที่พักของรัฐบาล พอมาถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสใช้ในการปกครองท้องถิ่น มีการบูรณะแล้วประกาศเป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ จนเมื่อได้รับอิสรภาพได้กลายเป็นพระราชวังฤดูร้อนของประธานาธิบดี เรื่องเล่ามากมายผ่านกาลเวลา

BEIT-ED-DINE.jpg

Deir El Qamar (เดอร์ เอล คามาร์) เป็นอดีตเมืองหลวงของเลบานอนในศตวรรษที่ 15 อยู่ใกล้กับเมืองไบเทคดีน แยกจากกันด้วยหุบเขาที่สูงชัน หมู่บ้านแห่งนี้เป็นศูนย์กลางประเพณีและวรรณกรรมแห่งเลบานอน ภายในประกอบด้วยมัสยิด พระราชวัง โบสถ์ที่เป็นศูนย์รวมการทำกิจกรรมในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบุคคลมีชื่อเสียงทั้งนักเขียนและนักการเมืองมากมาย

Deir-El-Qamar.jpg

เมือง Jeita (ไจต้า) นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชม ถ้ำไจต้า (Jeita Grotto) ที่สวยที่สุดในโลกอยู่ห่างจากเบรุตแค่ 18 กิโลเมตร ที่นี่มีความลึกลับมาก ค้นพบโดยมิชชันนารีชาวอเมริกัน ถ้ำบางส่วนเดินชมได้ บางส่วนเป็นเหวลึก แบ่งเป็นถ้ำด้านบนและด้านล่าง ต้องนั่งเรือเข้าไปชม ซึ่งข้างในมีน้ำสะอาดเป็นแหล่งน้ำดื่มของชาวเลบานอน

The-Jeita-Grotto.jpg

บิบลอส (Byblos) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของโลก และยังเป็นท่าเรือแห่งแรกของโลกด้วย เมืองนี้อยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เชื่อว่ากำแพงเมืองสร้างในยุค Bronze Age โดยชาวฟินิเชียน และมีคนอาศัยที่นี่นานกว่า 7,000 ปี ทำให้ที่นี่ได้รับคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1984 มาที่นี่ก็จะได้ชมบรรยากาศเมืองโบราณอายุนับพันปีริมทะเล อย่างป้อมเก่าที่สร้างโดยนักรบชาวครูเสดใช้หินจากโบราณสถานของโรมันและอาหรับ

Byblos-2-1.jpg

บาลเบ็ค (Baalbek) เป็นอีกเมืองมรดกโลก เพราะมีศาสนสถานของโรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศเลบานอน เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเทพเจ้าจูปิเตอร์ บิดาแห่งเทพเจ้าทั้งปวง วิหารยาว 274 เมตร เสาสูง 22 เมตร นับว่าสูงที่สุดในโลก โดยมีเสาล้อมรอบทั้งหมด 54 ต้น ปัจจุบันเหลือเพียง 6 ต้นเพราะแผ่นดินไหว และนำไปใช้งานที่อื่น (โบสถ์เซนต์โซเฟีย อิสตันบูลมีเสาของที่นี่ 8 ต้น) อีกวิหารหนึ่งสวยงามไม่แพ้กันแต่ขนาดเล็กกว่า สร้างขึ้นถวายเทพเจ้าแบคคัสและวีนัส ได้รับการยกย่องว่างดงามที่สุดในแบบคอรินเธียน

Ancient-Roman-temple-Baalbek.jpg

แอนจาร์ (Anjar) เมืองเล็ก ๆ ที่รุ่งเรืองในยุคมุสลิม สามารถชมพระราชวังโบราณ โรงอาบน้ำ ร้านค้ากว่า 600 ร้าน ที่แสดงให้เห็นว่าเมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าในสมัยโบราณ

Anjar.jpg

เชคก้า (Chekka) เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเลบานอน ที่นี่สามารถชมภูเขาที่สวยที่สุดของเลบานอนได้ นั่นคือ หุบเขาคาติชา (Kadisha Valley) เรียกอีกอย่างว่าหุบเขาศักดิ์สิทธิ์วาดีคาติซา เพราะเป็นหนึ่งในชุมชนศาสนายุคคริสต์ศาสนาตอนต้นที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อารามคริสต์ศาสนาหลายแห่งมีอายุเก่าแก่มากตั้งอยู่บนหุบเขาอย่างน่าทึ่ง

Kadisha-2.jpg

Bsharri (บชาร์ริ) มี ป่าต้นสนซีดาร์ (Cedars of God Forest) ที่บางต้นอายุมากกว่าพันปี! ได้รับการคุ้มครองเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1998 ป่าแห่งนี้มีคุณค่ามากในยุคโบราณ เพราะได้ใช้ไม้เป็นวัสดุก่อสร้างศาสนาสถานที่ยิ่งใหญ่หลายแห่ง แล้วรู้หรือไม่ว่า ต้นสนถือเป็นต้นไม้ประจำชาติเลบานอน และยังอยู่ในสัญลักษณ์ตรงกลางธงชาติของเลบานอนด้วย

Cedars-of-God-Forest-at-Bsharri.jpg

ตันนูริน (Tannourine) เมืองท่องเที่ยวทางตอนเหนือของเลบานอน มี น้ำตกบาตาร่า (Baatara Gorge Waterfall) อยู่ไกลจากเมืองหลวงเบรุตประมาณ 2 ชั่วโมง น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดอัศจรรย์ ธรรมชาติได้สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ผ่านเวลายาวนานจนกลายเป็นน้ำตกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดเด่นอยู่ที่น้ำตกไหลลงไปในรูสู่หลุมด้านล่าง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากด้านนอกเป็นช่องสามชั้น ซึ่งแต่ละชั้นเป็นเหมือนสะพานหินธรรมชาติอยู่ คนจึงเรียกน้ำตกแห่งนี้อีกชื่อว่า ถ้ำสะพานสามเหว (Cave of Three Bridges) ในฤดูหนาวน้ำตกกลายเป็นน้ำแข็ง และเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงน้ำแข็งละลาย น้ำจะมีปริมาณมากที่สุด

Baatara-Gorge-Waterfall.jpg
bottom of page